มนุษย์นั้นแสวงหาทางเป็นอมตะมาน่าจะพร้อมๆกับการมีวัฒนธรรม
ภูมิปัญญาทางด้านเภสัชกรรมของจีนโบราณ เป็นไปเพื่อการแสวงหาเป้าหมายสูงสุดของโอสถ คือ ยาอายุวัฒนะ หรือยาอันช่วยในการยืดชีวิตไปให้ได้นานเท่า นาน
เครื่องยาอันแปลกประหลาด เช่น อุ้งตีนหมี นอแรด หนวดเต่า เขากระต่าย น้ำลายยุง ถูกนำมาปรุงประกอบเพราะเชื่อว่าจะชะลอความชรา และฉุดคร่ามรณะ
หรือชาวอียิปต์โบราณที่อาจจะยอมแพ้กับการเป็นอมตะ แต่เชื่อในเรื่องการคืนชีพ จึงพยายามรักษาศพให้อยู่ในสภาพที่ดีเท่าที่จะทำได้ เพื่อรอวันกลับคืนมา
มนุษย์ล้วนรักหวงชีวิตของตน แม้แต่คนที่ตัดสินใจปลิดชีพตนเอง ผมก็เชื่อว่าวินาทีสุดท้ายก่อนที่ลมหายใจจักจาก หรือเมตรสุดท้ายก่อนร่างกระทบพื้น คงจะมีเสี้ยว วินาทีที่รู้สึกเสียดายชีวิต
ครั้งหนึ่งเคยมีมารดาผู้เสียบุตร ร่ำร้องต่อพระพุทธเจ้าว่า ขอให้องค์พระศรีศากยะผู้รู้ธรรม นำชีวิตบุตรของหล่อนกลับคืนมาด้วย
พระพุทธเจ้าตรัสว่า หากแม้นมีครอบครัวใด ที่ไม่เคยมีคนตายเลยแม้แต่ช่วงอายุเดียว ให้เจ้านำเมล็ดผักกาดจากบ้านนั้นมาเถิด ข้าจักชุบชีวิตบุตรของเจ้าให้
ครอบครัวเช่นว่านั้นไม่มีอยู่ และไม่พึงต้องพูดถึงเมล็ดผักกาด
แน่ละ มนุษย์ไม่มีวันเป็นอมตะ แต่มนุษย์ก็มีความสามารถในการสร้างสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นอมตะ
ป.อินทรปาลิต เขียนหนังสือ พล นิกร กิมหงวน ขึ้นตั้งแต่ราวๆ ปี 2480 จนถึงราว พ.ศ. 2510 ป. อินทรปาลิตเสียชีวิตไปกว่าสามสิบปี แต่ผลงานของเขายังได้รับ การตีพิมพ์ กล่าวถึง มีแฟนคลับที่หนาแน่น และเป็นหนังสือขายดีตลอดกาลมาจนทุกวันนี้
ความคิดเรื่องทฤษฎีสัมพันธ์ภาพ ในการเปลี่ยนมวลสารเป็นพลังงาน ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยังมีการศึกษากันอยู่ในมหาวิทยาลัย และแปรรูปไปใช้เป็นโรงไฟฟ้า ปรมาณูเป็นพันแห่งทั่วโลก
ความคิดที่พระเจ้านโปเลียนบัญชาให้รวบรวมและเรียบเรียงกฎหมายต่างๆของฝรั่งเศส ให้อยู่ในรูปแบบระบบที่อ้างอิงได้ง่าย เป็นต้นกำเนิดของระบบประมวล กฎหมายในโลกตราบถึงทุกวันนี้
รูปภาพ เซนต์ จอห์น เดอะ แบบติสม์ โมนาลิซ่า (หรือลาโจกง) เวอร์จิน ออฟ เดอะ ร๊อก ของลีโอนาโด ดา วินชี่ มีผู้เข้าชมเป็นหมื่นๆ สายตาต่อวัน
ซิมโฟนีหมายเลขห้า ของบีโธเฟน ถูกบรรเลงผ่านสื่อต่างๆ มากกว่าหมื่นรอบในแต่ละวัน
อองตวน เดอ แซงเต็กซูเปรี ขับเครื่องบินหายไปในความมืดในคืนหนึ่งเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อน แต่หนังสือ เจ้าชายน้อย ของเขายังไม่เคยหายไปจากร้านหนังสือทั่ว โลก
ฯลฯ
เช่นเดียวกับ สตีฟ จ็อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple Computer ผู้ผลิตและส่งออก วัฒนธรรม i - iMac, iPod, iPhone, iPad ทั้งหลาย
สำหรับผม เขาไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงเพราะเจ้า i ทั้งหลายนั้น แต่เขาคือรากฐานสำคัญคนหนึ่ง ของการทำให้คอมพิวเตอร์กลายเป็น ของง่าย หรือ เครื่องใช้ประจำวัน เช่นปัจจุบันนี้
ยุคสมัยที่คอมพิวเตอร์คือของใช้เฉพาะในห้องแลป หรือมหาวิทยาลัย คนจะเรียนวิชา ''พื้นฐานคอมพิวเตอร์'' ในโรงเรียนมัธยมของผมที่มีสอน (ซึ่งถือว่าทันสมัยมาก สอนคอมพิวเตอร์ในยุค 198X) จำกัดว่า ผู้เรียนต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3
ในยุคที่การใช้งานคอมพิวเตอร์ยังต้องคีย์คำสั่งเป็นบรรทัด ซื้อคอมพิวเตอร์แถมตำรา DOS และ BasicA หนาเท่าสมุดโทรศัพท์ ที่ปรานีผู้ใช้งานภาคพื้นบ้านที่สุด แล้วก็คงเป็นพวกระบบ WYSIWYG เช่น CU-Writer หรือ Lotus 1-2-3
ช่วงเวลานั้น เขาเป็นคนประยุกต์ให้คอมพิวเตอร์มีการติดต่อกับคนผ่านระบบรูปภาพกราฟฟิก ด้วยคอมพิวเตอร์ Apple Lisa ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า เป็น ตัวแม่ ของ Macintosh ต่อนจะ ติดตามมาด้วย Windows และ ระบบปฏิบัติการที่ใช้ GUI ทั้งหลายในปัจจุบัน
จนถึงยุคที่ใครๆก็มีคอมพิวเตอร์ใช้ในรูปแบบต่างๆ เป็นของใช้ธรรมดาคล้ายโทรทัศน์หรือวิทยุในทุกวันนี้ อาจกล่าวได้ว่า สตีฟ จ็อบส์ มีส่วนร่วมของเรื่องนี้ไม่น้อยกว่า 40%
เขาไม่ใช่คนแรกที่คิดค้นระบบ GUI แต่เขาทำให้มันแพร่หลายหลังจากที่เขาเอามือไปหยิบมันขึ้นมา
เขาไม่ใช่คนแรกที่คิดค้น Mp3 Player หรือ Multimedia smart phone หรือแม้แต่ Tablette Computer
แต่เขาเป็นคนที่ยกมันขึ้นมาบอกชาวโลกว่า ลืมเทป,แล้วมาฟังเพลงจากไฟล์กันเถอะ โทรศัพท์อย่าแค่เอาไว้โทรศัพท์เลย เอามาถ่ายรูปถ่ายวิดิโอลูกของคุณ เก็บหรือส่งไปอวดคนอื่นกันเถอะ หรือ เราพกคอมพิวเตอร์อย่างที่พกสมุดกันดีกว่า มนุษย์ไม่มีวันเป็นอมตะ
แต่มนุษย์มีมันสมอง และจินตนาการ
ที่สร้างสรรค์สิ่งอันเป็นอมตะได้....
ทุกครั้งที่มีผู้สัมผัสหน้าจอของ iPhone หรือ iPad หรือเมื่อใดที่แสงไฟรูปแอปเปิ้ลถูกกัดวาบสว่างขึ้นจากด้านหลังจอเครื่อง Macintosh
เมื่อนั้น เสียงหัวใจของสตีฟ จ็อบส์ จะยังคงดังต่อเนื่องอยู่
ฉบับแรกเขียนเมื่อ
26 กันยายน 2548
ในชื่อ อมตะ
|