|
 |
เพราะ ความคิดสร้างสรรค์
บวกกับการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
จึงทำให้เด็กหนุ่มวัย 19 ที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัย มีเส้นทางการดำเนินของชีวิตที่แตกต่างจากคนอื่น
อีกทั้งยังพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นเจ้าของ
กลุ่มธุรกิจNetDesignโรงเรียนสอนออกแบบ
เว็บไซต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
หลังจบปริญญาตรีนิเทศศิลป์
จากมหา-วิทยาลัยศิลปากร ในยุคฟองสบู่แตก คุณเฉลิมรัฐกลับ
เป็นบัณฑิตจบใหม่ที่ได้งานทำทันที ด้วยอาศัยความรู้ด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก
ที่ฝึกฝนจากการฝึกงานขณะเรียน |
|
ผมได้งานที่บริษัททำเว็บไซต์ของฝรั่งเศส ออกแบบดีไซน์เว็บไซต์ในเมืองไทย แล้วส่งกลับไปขายที่ฝรั่งเศส แล้วด้วยความที่เราเรียนอาร์ตมา งานออกแบบของเราจึงแตกต่างจากคนอื่น เพราะเราใช้ศิลปะเข้ามาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารบนเว็บไซต์ จึงทำให้มีคนจ้างเป็นฟรีแลนซ์ ทำเว็บไซต์ใหญ่ๆ มากมาย พออายุ 20 เลยตัดสินใจเปิดบริษัทกราฟิกเฮาส์เล็กๆ ร่วมกับเพื่อน 2-3 คน ชื่อ Cyber Design เปิดมาได้ปีกว่าๆ ลูกค้าแน่นมาก แต่การทำเว็บไซต์มันน่าเบื่อตรงที่ต้องคอยอัพเดตเว็บตลอด ผมเลยคุยกับลูกค้าว่าพี่ส่งคนมาเรียน ดีกว่า เดี๋ยวผมสอนให้ ผมก็สอนเขาให้เข้าใจง่ายๆ วันรุ่งขึ้นเลยขนเพื่อนๆ มาเป็นรถตู้เลยครับ เพื่อมาเรียนกับผม ผมเลยได้ความคิด จะเปิดโรงเรียนสอนทำเว็บไซต์
สิ่งที่ผมทำถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจอินเตอร์เน็ต เราเข้ามาเป็น First Mover ในธุรกิจนี้ โดยมีแนวทางการทำงานที่ต่างจากคนอื่น นั่นคือการให้โอกาส ในสมัยนั้นบริษัททำเว็บไม่มีใครกล้าเปิดเผยองค์ความรู้ว่าทำเว็บ อย่างไร เพราะถือว่าถ้าเขารู้คนเดียวเขาก็สามารถหากินไปได้ตลอด แต่เราเปิดสอน ฉะนั้นคนที่มาเรียนก็จะมีความรู้ติดตัวไปทำธุรกิจต่อยอดของเขาได้ ตอนนั้นผมเปิดโรงเรียนเล็กๆ คนเดียว อยู่ที่อาคารฟอร์จูนทาวน์ ซึ่งเป็นห้างเยาฮันที่เพิ่งเจ๊ง ผมไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเลย ไม่รู้หรอกว่า |
| |
4P Product, Price, Place, Promotion คืออะไร ถ้ารู้ว่าสถานที่แย่ขนาดนี้ เราก็คงไม่มาเปิด แต่เราเชื่อในความสามารถของเรา เชื่อในความคิดว่าต่อไปธุรกิจด้านอินเตอร์เน็ตจะเติบโต เลยเข้าไปทำสัญญาเช่า 3 ปี โดยขออยู่ฟรี 6 เดือน จากนั้นก็ลงมือทาสี ปูพรมเอง ซื้อคอมพิวเตอร์มา 9 เครื่อง โดยขอเครดิต 45 วัน และทำใบปลิวเดินแจกเอง ปรากฏว่าเดือนแรกก็มีคนมาสมัครเรียน 300 คน ได้เงิน 2 ล้านกว่าบาท แต่ผมก็ต้องสอนคนเดียวตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่มทุกวัน ไม่มีวันหยุด หลักในการสอนของผมคือพยายามสอนให้เข้าใจแล้วนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของตัว เอง แต่ถ้าทำไม่ได้ ผมให้กลับมาเรียนซ้ำได้ฟรีตลอดชีวิต เหมือนการรับประกันคุณภาพ ปรากฏว่ายิ่งเปิดไปก็ยิ่งมีการบอกต่อ จนปีที่สองที่ผมเริ่มให้โอกาสคนอื่น จากที่เคยเป็นนักเรียนในห้อง ก็ชวนขึ้นมาเป็นผู้ช่วยสอน เริ่มสร้างทีมงาน ทีมงานคนแรกๆ เป็นเด็กแจกใบปลิว จนวันนี้อยู่มา 10 ปี เขากลายเป็นหุ้นส่วนบริษัท คุมพนักงานเป็นร้อย บริษัท มีรายได้เป็นร้อยล้าน นี่คือหลักการบริหารงานของผม เพราะที่ผมมาถึงวันนี้ได้ ผมเองก็ได้รับโอกาสและวิ่งหาโอกาส
อุปสรรคสำคัญของการทำธุรกิจคือความรู้ การไม่มีความรู้มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือเราจะไม่กลัว เพราะบางทีความรู้จะปิดกั้นจินตนาการ ทำให้ไม่กล้าทำโน่นทำนี่ ผมมองว่าตัวเองเป็นเหมือนมอเตอร์ไซค์วิบาก ผมไม่ใช่เด็กบ้านรวย ไม่ใช่ปอร์เช่ ไม่ใช่เฟอร์รารี่ พวกนี้จะวิ่งบนถนนเรียบ แต่ผมชอบวิกฤติ ชอบวิ่งถนนขรุขระ เหมือนมอเตอร์ไซค์วิบาก เพราะว่าคู่แข่งน้อย นอกจากนี้การทำธุรกิจต้องรู้ให้รอบ เราต้องมีความรู้เฉพาะทาง มีความรู้เรื่องกฎหมาย เรื่องเศรษฐศาสตร์ หลายๆ อย่าง ผมจึงเรียนเพิ่มเติมทั้งปริญญาตรี-โท ด้านนิเทศศิลป์ ปริญญาโทด้านกฎหมายเศรษฐกิจ และปริญญาเอก ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารและการศึกษา ไม่อย่างนั้นเราก็จะรู้แต่ในกรอบ วันนี้ NetDesign จึงไม่มีคู่แข่งทางธุรกิจ ไม่เคยโดนฟ้องร้อง ไม่เคยเหยียบแข้งเหยียบขาคนอื่น เพราะเราไม่ได้ต้องการเอาชนะคู่แข่ง แต่เราเอาชนะตัวเอง พยายามทำอะไรที่ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี ทางเดินของเราก็จะประสบความสำเร็จ
จริงๆ ผมไม่ได้เป็นคนโชคดี เอาแค่ปี ที่แล้วตอนเผายางปิดถนน ไฟไหม้เซ็นทรัลเวิลด์ ที่เราเพิ่งเปิดคลินิกไป 3 เดือน ลงทุนไป เป็นสิบล้าน โรงเรียนสาขาสยามก็โดนปิด สาขาพารากอนก็โดนปิด ลามไปจนถึงฟอร์จูน ค่าเช่าก็ต้องจ่าย ค่าพนักงานก็ต้องจ่าย แต่รายรับไม่มี ทุกวันมีอุปสรรค แต่เราเป็นคนไม่คิดมาก รู้จักจัดอันดับความสำคัญของปัญหา มองว่าปัญหาไหนที่กระทบกับเพื่อนร่วมงานเราเยอะๆ เราต้องแก้ก่อน แล้วเราค่อยมาแก้ปัญหาตัวเอง ถ้าถามว่าเรามีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร เรามีความรู้เป็นภูมิคุ้มกัน แล้วเรามีสติ แล้วที่สำคัญที่สุดเรามีทีมงาน ที่เราจัดสรรให้เหมาะสมกับงาน ทุกวันนี้ผมแทบไม่ต้องทำงานเลย เพราะเขาสามารถบริหารจัดการกันเองได้
ส่วนอนาคตธุรกิจเราคงต้องโตไป 2 ทาง ทางหนึ่งคือลักษณะของธุรกิจเราเป็นสินค้าที่ดีที่สุดในตลาด เราต้องปรับให้มันเป็น Total Solution ครบวงจร เรียกว่าถ้าคิดถึงไอทีและการดีไซน์ ต้องคิดถึงเน็ตดีไซน์เป็นอย่างแรก กับส่วนที่สองคือการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจ เพราะเป็นไปไม่ได้ว่าธุรกิจจะอยู่ยืนยง มันมีวงจรชีวิตของมัน ผมจึงเริ่มลงทุนกับธุรกิจอื่นๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจความงาม Yasashii Clinic ที่มี 4 สาขาแล้ว ตอนนี้ผมจึงมีธุรกิจอยู่ 8 บริษัท มีเพื่อนร่วมงาน 200 คน นอกจากนั้น NetDesign ยังต้องพัฒนาและยกระดับต่อไป ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มสาขาหรือการยกระดับจากโรงเรียนที่เป็นการศึกษานอกระบบ ให้เป็นการศึกษาในระบบ พัฒนาตัวเองให้เป็นมัลติมีเดีย คอลเลจ ในอนาคต เพราะการดีไซน์และไอทีเป็นเครื่อง-มือในการสร้างนวัตกรรม และนวัตกรรมก็คือคีย์ซัคเซสของประเทศ |
| 15/8/54 |
| ที่มา: http://www.priewmagonline.com/lifestyledetail.php?id=293 |
| |
| |
| |
| |
|
 |
|
